ปัจจุบันไม่สามารถแยกออกว่าใครติดหรือไม่ติดเชื้อเอชไอวีหากเจ้าตัวไม่บอกโดยตรง เพราะสุขภาพของผู้มีเชื้อดีไม่ต่างกับบุคคลทั่วไป หากเข้ารับการรักษาทันเวลาและปฏิบัติตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด การดูแลตนเองในกรณีที่อยู่ร่วมกับไวรัสเอชไอวีที่ควรทำคือ
- กินยาตามที่แพทย์สั่งโดยเคร่งครัด กินให้ต่อเนื่อง ตรงเวลาและสม่ำเสมอ
- กินอาหารที่มีประโยชน์ เพราะอาหารมีส่วนช่วยเสริมสร้างการทำงานที่ดีของระบบภูมิคุ้มกัน และให้พลังงานต่อร่างกาย
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม ช่วยสร้างเสริมสุขภาพร่างกายและสุขภาพใจให้แข็งแรง นอกจากนี้การออกกำลังกายอาจช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญดีขึ้นอีกด้วย
- ดูแลสุขภาพจิต หากมีคนให้บอกเล่าความรู้สึก ปรึกษาและให้คำแนะนำ จะช่วยให้สุขภาพจิตดี
- เลิกบุหรี่ เลิกใช้สารเสพติด การใช้ยาเสพติด เพราะอาจทำให้อาการต่าง ๆ ของผู้ติดเชื้อเอขไอวีแย่ลงได้ และยิ่งหากมีการเสพยาโดยการฉีด อาจทำให้เชื้อไวรัสเร่งการเจริญเติบโตในร่างกายได้
- ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อเอชไอวีสู่ผู้อื่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวีควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ให้คู่นอนไปตรวจเลือดเพื่อจะได้วางแผนชีวิตได้ดีขึ้น
- ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ไม่ให้เกิดโรคอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลง
สิ่งที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีควรทำถึงแม้จะไม่อยากทำ คือ ควรพิจารณาเรื่องการบอกคนที่ไว้ใจได้ เช่น ครอบครัว เพื่อน บุคคลใกล้ชิด หรือคู่นอน เพื่อที่ตนเองและคนรอบข้างจะได้เตรียมรับมือและปฏิบัติตัวตามข้อควรระวังหรือขั้นตอนต่าง ๆ มีความเข้าใจ คอยให้กำลังใจ และลดความอึดอัด